วันพุธที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2555

คาถา รพีพัฒน์ สำหรับผู้เรียนกฎหมาย

คาถา รพีพัฒน์ สำหรับผู้เรียนกฎหมาย - อ.จิตติ ติงศภัทิย์
ได้ข้อมูลนี้มาจาก ท่านศาสตราจารย์จิตติ ติงศภัทิย์ ขณะท่านยังมีชีวิตอยู่ โดยท่านมอบแผ่นกระดาษเก่า ๆให้ ท่านบอกว่าท่านประสบความสำเร็จในชีวิตสูงสุดได้ก็เพราะข้อปฏิบัติ ทั้ง 10 ประการนี้ (ท่านศรัทธาในพระคาถามาก)

- บูชาพระบิดาแห่งกฎหมายไทยด้วย พระคาถาที่ว่า
"รพีพร ประสิทธิ มังคละ พัฒนะ จิตติยา มะอะอุ สติปัญญัง
จิตตะ จิตัง สติปัญญัง อาโรปิเต สติปัญโญ โสตถี โหนตุ ภะวันตุ เม ฯ"
ตัวบทกฎหมายใด ๆ จะเรียก คัมภีร์แทน (ตามที่พระท่านเรียก)

พระคาถานี้ ข้าพเจ้าได้เจอกับหลวงตาองค์หนึ่งซึ่งเป็นพระสงฆ์ที่เดินป่าธุดงค์ พรรษาน่าจะไม่น้อยและได้ขอพระคาถาท่องจำ เพราะเรียนกฎหมายจำยากท่านถามว่า จำเรื่องอะไร ใครเป็นที่เคารพบูชา ในเรื่องนั้นข้าพเจ้า ถวายตอบไปว่า โดยมากจะบูชา พระบิดากฎหมายไทย พระนามเต็มของพระองค์คือ พระองค์เจ้ารพีพัฒนศักดิ์ หรือกรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์ แต่ก็ไม่มีพระนามหลังปรากฏในพระคาถาแต่อย่างใด ก่อนกราบนมัสการลา ท่านกำชับว่า เราให้คาถานี้เพื่อเจ้าได้ใช้เพียงส่วนตนข้าพเจ้าหวังอยากให้เพื่อนสนิท ได้นำไปใช้ด้วย จึงนมัสการขอให้ใช้กับผู้อื่นได้ด้วย ท่านบอกกับข้าพเจ้าว่า เจ้ามาพบเราโดยบังเอิญ และเจ้าจะไม่นำความที่ได้มาพบเราไปเล่าโดยวาจาของเจ้าแต่ผู้ใด

ดังนั้น คาถานี้ก็เช่นกัน จะถ่ายทอด ให้แก่ผู้อื่นได้ก็แต่ สลักเป็นลายอักษร ให้ผู้อื่นรับไว้เองและผู้นั้นจะไม่ นำคาถานี้ไปถ่ายทอดสืบต่อไป ไม่ว่าโดยทางวาจาหรืออักษรอีกเป็นอันขาด มิเช่นนั้น อานิสงค์ของพระคาถา จะตกแก่ผู้รับคาถานั้น ต่อ ๆ ไป

กล่าวง่าย ๆ ข้าพเจ้า(หมายถึงท่านอาจารย์จิตติ)นำมาบอกได้ แต่ต้องแสดงให้เห็นโดยตัวอักษร แล้วท่านที่อ่านพระคาถาไม่ว่ากรณีใด ๆ หากนำไปถ่ายทอดต่อเป็นวาจาหรืออักษร จะเป็นผลให้อานิสงค์ของพระคาถา สูญสิ้นไป.

-จิตบริสุทธิ์ศรัทธาและรำลึกเฉพาะแต่ตัวบทกฎหมายอันเป็นตัวแทนของพระบิดา
ขณะท่องพระคัมภีร์(หนังสือตำราของพระบิดาสมเด็จกรมหลวงฯ)ขั้นแรกในการทำให้การท่องจำของเราง่ายขึ้นนั้นก็คือ ความบริสุทธิ์ใจ เราควรท่องจำคัมภีร์กฎหมายเพื่อหวังผลตอบแทนคือ การจำได้ และ ความเข้าใจ อันเปรียบเสมือนการเข้าถึงองค์พระบิดา มิใช่เพื่อโอ้อวดหรือเพื่อลาภยศชื่อเสียง ซึ่งสิ่งเหล่านั้นจะเป็นผลพลอยได้หาก พระบิดาทรงพอพระทัยทราบถึงจิตบริสุทธิ์ของเราและจะประทานมาให้เราเอง

-อ่านและออกเสียงพระคัมภีร์ให้ถูกวิธีปัจจัยที่จะช่วยให้เราจำคัมภีร์กฎหมายคือ การอ่านและออกเสียงให้ถูกวิธี โดยอาจจะฟังจากเสียงท่านอาจารย์ผู้บรรยายเราชอบสิ่งนี้จะทำให้เรารู้สึกใกล้ชิดกับคัมภีร์กฎหมาย

-การกำหนดจำนวนที่เราต้องการท่องในแต่ละวัน เช่น 3,5,10,20 หน้าคัมภีร์ต่อวัน ถ้าตั้งเป้าหมายในการท่องจำอยู่ที่ 3 หน้าคัมภีร์ต่อวัน เราควรอ่าน 3 หน้าคัมภีร์ที่เราจำแล้ว กับอีก 3 หน้าคัมภีร์ที่เราต้องการจำ กล่าวอย่างชัดเจนก็คือ ถ้าเราจำ 3 หน้าคัมภีร์แล้วในวันนี้ วันถัดไป เราควรท่องอีก 3 หน้าคัมภีร์พร้อมๆกับทบทวน 3 หน้าคัมภีร์ที่เราจำในวันนี้ด้วย แทคติคเสริมในการท่องจำคัมภีร์กฎหมาย คือ การทวนหน้าคัมภีร์ต่างๆ ในทุกๆโอกาสด้วยท่วงทำนอง(ร้อยกรอง) เพราะร้องกรองจะทำให้เราสนุกกับการอ่านและจะทำให้เราจำได้ง่ายขึ้น

-อย่าละเมิดข้อจำกัดในแต่ละวันถ้าเราตั้งใจว่าจะท่อง 5 หรือ 10 หน้าคัมภีร์ต่อวัน ก็อย่าได้ท่องให้เกินนั้น มอบหมายแก่ตัวเราให้ท่องตามจำนวนนั้นอย่างสม่ำเสมอ อย่าเปลี่ยนรูปแบบ ไม่อย่างนั้น พรแห่งความทรงจำจากพระบิดาจะไม่บังเกิด และจะไม่ทรงประสิทธิประสาทพรให้สำเร็จแต่อย่างใด

-ใช้คัมภีร์กฎหมายเล่มเดียวในการท่องจำก่อนเปิดคัมภีร์เล่มดังกล่าวนั่นก็เพราะ คัมภีร์กฎหมายแต่ละเล่มมีการจัดวางรูปแบบหน้าที่แตกต่างกัน ถ้าเราใช้คัมภีร์กฎหมายเล่มเดียวกันในการท่องจำ มันจะทำให้เรามีภาพของหน้าคัมภีร์ที่เราท่องในหัวใจตรงกันข้ามถ้าเราท่องจำจากคัมภีร์กฎหมายหลายๆฉบับ มันจะทำให้เราสับสนและยากต่อการจำคัมภีร์กฎหมาย

-การเข้าใจในกลไกของการท่องจำการเข้าใจความหมายของหน้าคัมภีร์ที่เราท่อง จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการจำและจะทำให้เกิดความร่าเริงแก่เรา เช่น ในคัมภีร์ท่อนหนึ่งมีคำว่า รับช่วงสิทธิ หากเราเข้าใจในเวลาต่อมาว่า หมายถึง การที่บุคคลซึ่งมิใช่เจ้าหนี้เดิมในมูลหนี้นั้นได้เข้ารับสิทธิของเจ้าหนี้เดิมที่มีอยู่ด้วยอำนาจแห่งกฎหมาย ก็จะเป็นการเพิ่มความจำได้ดียิ่งขึ้น

-อย่าข้ามไปบทอื่นจนกว่าเราจะจบในบทนั้นๆ การท่องจำคัมภีร์กฎหมายเป็นบทๆ

-ท่องหรืออ่านต่อหน้าพระรูป พระบิดา (หากจะทดสอบตัวเองว่าท่องได้หรือยัง ให้ท่องต่อหน้า บูชนียบุคคลทางด้านกฎหมาย(อันนี้คงยาก) เขียนทดสอบจะง่ายกว่า

-รื้อฟื้นตัวคัมภีร์ที่จำได้แล้วโดยการกวาดสายตาอย่างเร็วทุก ๆ 7 วัน (อันนี้ต้องทำตารางให้ดี ทำได้ยาก)

อันที่จริงข้าพเจ้าไม่อาจจะนำบทความเหล่านี้มาแนะนำต่ออีกได้ หากไม่ได้ฝันเห็นท่านอาจารย์อนุญาตให้นำไปแจกจ่ายแก่วงการนักศึกษากฎหมายได้ ปัจจุบันนี้ ข้าพเจ้าเป็น ผู้พิพากษาชั้นผู้ใหญ่ จึงไม่หวงแหนและเก็บข้อมูลที่ได้รับจากท่านอาจารย์จิตติมาแต่ประการใด

หมายเหตุ
กระผม ด.ต.ธีรวัฒน์ สุขมล ขอขอบคุณและขออนุญาตเผยแพร่เพื่อเป็นวิทยาทานต่อไปครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น